ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

หมีพูห์ เวอร์ชั่นคนแสดง ได้ผู้กำกับWorld War Z นั่งแท่น

หมีพูห์ เวอร์ชั่นคนแสดง ได้ผู้กำกับ World War Z นั่งแท่น




Winnie the Pooh ฉบับคนแสดง ได้ มาร์ค ฟอร์สเตอร์ นั่งแท่นกำกับ อาจใช้ชื่อหนังว่า Christopher Robin

หลังจากช่วงเดือนเมษายน 2016 มีกระแสข่าวพูดถึงการสร้าง Winnie The Pooh ในฉบับคนแสดง ล่าสุดเว็บไซต์ The Hollywood Reporter มีความเคลื่อนไหวของโปรเจคท์นี้มาให้แฟน ๆ ที่รอคอยได้ติดตามกัน โดย มาร์ค ฟอร์สเตอร์ (Marc Forster) จาก World War Z (2013), 007 Quantum of Solace (2008) และ Finding Neverland (2004) คือผู้ที่จะมารับหน้าที่กำกับหนังเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ โดยอาจใช้ชื่อว่า Christopher Robin อย่างไรก็ตามยังไม่มีการระบุว่านักแสดงในเรื่องนี้มีใครบ้า


ภาพ ผู้กำกับ มาร์ค ฟอร์สเตอร์ จาก เฟซบุ๊ก World War Z

โดย Winnie the Pooh ฉบับนี้จะเล่าเรื่องราวของ คริสโตเฟอร์ โรบิน ที่เติบโตกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ และทุ่มเวลาให้กับงานมากกว่าภรรยาและลูกสาวของตัวเอง แต่แล้วเขาก็ได้รับการร้องขอจาก พูห์ ให้ช่วยตามหาเพื่อน ๆ ของเขาอีกครั้ง โดยโรบินต้องหาทางแก้ปัญหาทั้งสองฝ่าย ไม่อย่างนั้นเขาอาจสูญเสียทุกอย่างที่ตัวเองรักไป


ทั้งนี้ความน่ารักของหมีพูห์ Winnie The Pooh เป็นที่รู้จักครั้งแรกในรูปแบบหนังสือเด็กของ เอ.เอ. มิลน์ (A.A. Milne) ซึ่งในปี 1966 ผลงานชิ้นนี้ถูกดัดแปลงเป็นหนังสั้น Winnie the Pooh and the Honey Tree และถูกสร้างตามมาอีก 2 เรื่องภายใต้การควบคุมของ วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) โดยหนังสั้นทั้ง 3 เรื่องเข้าฉายรวมกันภายใต้ชื่อ The Many Adventures of Winnie the Pooh เมื่อปี 1977 จากนั้นในยุค 80 หมีน้อยและผองเพื่อนจึงปรากฏตัวในรูปแบบทีวีซีรีส์, โฮมวิดีโอ รวมถึงหนังเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง Winnie the Pooh ที่เข้าฉายเมื่อปี 2011



แหล่งอ้างอิง: https://movie.kapook.com/view161076.html

เพลงเพราะๆ


คืนนี้อย่าร้องไห้🔽




แค่บอกว่ารักเธอ🔽




แหล่งอ้างอิง: https://www.youtube.com/watch?v=mjaJTMk_DyQ
                    : https://www.youtube.com/watch?v=EIG1czJYnC8

หมั่นโถวหมีพูห์ อาหารว่างสุดน่ารักกระตุ้นต่อมหิวคุณหนู

หมั่นโถวหมีพูห์ อาหารว่างสุดน่ารักกระตุ้นต่อมหิวคุณหนู


🔽ส่วนผสม หมั่นโถว (ประมาณ 12-15 ลูก ขึ้นอยู่กับขนาดที่ปั้นค่ะ)     • มันเทศญี่ปุ่นนึ่ง 200 กรัม
     • น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
     • นมสด 1/3 
     • แป้งซาลาเปา 200 กรัม
     • ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
     • ผงฟู 1 ช้อนชา
     • น้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
     • สีผสมอาหารสีดำ (สำหรับวาดหน้า ในสูตรใช้ปากกาสีผสมอาหารเพื่อความสะดวก)
     • กระดาษรองซาลาเปา 12-15 ชิ้น

🔽วิธีทำหมั่นโถว




แหล่งอ้างอิง: https://cooking.kapook.com/view172344.html

                     : https://www.youtube.com/watch?v=MzCatmN9qdI 








หมีพูคืออะไร? มีลักษณะเป็นอย่างไร?



หมีพูคืออะไร? มีลักษณะเป็นอย่างไร?




⇢หมีพู Pooh ใครที่ได้ยินชื่อนี้ก็จะนึกถึง หมีตัวอ้วนพุงโต ขนสีเหลืองส้ม และสวมเสื้อสีแดง และมีผองเพื่อนมากมาย ทั้ง Tigger เสือตัวลาย รักสนุก และมีหางเป็นสปริง,Piglet หมูตัวน้อยสีชมพู ใส่เสื้อลาย นิสัยขี้กลัว,Eeyore ลาสีฟ้าเทา ที่มีจิตใจเอื้ออารีย์,Rabbit กระต่ายน้อยที่ชอบดูแลสวนผัก,Roo หนูน้อยที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น และ Lumpy ช้างน้อยที่มีจิตใจกล้าหาญชอบแสดงละครและร้องเพลง






⇢นิสัยของหมีพูนั้น จะมีความเป็นผู้นำ มีความอ่อนโยน แต่อาจจะไม่ฉลาดนักในหมู่เพื่อนๆของเขา และสามารถหิวได้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเงียบทีไรก็จะได้ยินเสียงท้องของหมีพูส่งเสียงมาทุกที สิ่งที่สำคัญที่สุดของหมีพู ก็คือ น้ำผึ้ง โดยหมีพูจะมีคำพูดติดปากที่ว่า “ทำยังไงฉันถึงจะได้น้ำผึ้งนะ” ด้วยความที่หมีพูไม่ค่อยฉลาดนัก เมื่อเวลาหิวขึ้นมาและต้องการหาน้ำผึ้งจึงมักทำให้เกิดเรื่องราวสนุกๆ ตามมาเสมอ

แหล่ง
อ้างอิง:http://www.thaieditorial.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99/

ประวัติหมีพูห์&ต้นกำเนิดหมีพูห์


ประวัติหมีพูห์





หมีพูห์ หรือ วินนี-เดอะ-พูห์ ( Winnie-the-Pooh) เป็นตัวละครหมีที่สร้างขึ้นโดย เอ. เอ. มิลน์ และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 14 ตุลาคมค.ศ. 1926 ในหนังสือเรื่อง วินนี-เดอะ-พูห์ และ เดอะเฮาส์แอตพูห์คอร์เนอร์ (1928) เนื้อเรื่องในหนังสือมีลักษณะคล้ายกับ ป่าแอชดาวน์ ในเมือง อีสต์ซัซเซก ในประเทศอังกฤษ โดยชื่อ วินนี มาจากชื่อตุ๊กตาหมีของทหารชาวแคนาดานายหนึ่ง ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง วินนีเพก ในประเทศแคนาดา นอกจากหมีพูห์แล้วเพื่อนในป่าที่ได้รับความนิยมได้แก่ พิกเลต ทิกเกอร์ และ อียอร์ต่อมา วอลต์ดิสนีย์ ได้นำวินนี-เดอะ-พูห์ มาจัดทำและได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Winnie the Pooh (โดยไม่มีเครื่องหมายขีด) และหมีพูห์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของดิสนีย์ 

หมีที่ชื่อว่า วินนี่ เดอะ พูห์ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเอ.เอ.ไมลน์ ( A.A.Miline) นักเขียนชาวอังกฤษ มีชื่อเต็มว่า อลัน อเล็กซานเดอร์ ไมลน์
ตำนานของหมีพูห์เริ่มจากการที่ทหารกองทัพแคนาดาได้นำหมีน้อยตัวหนึ่ง ชื่อว่า วินนี่ เพ็ก แก่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการร่วมรบกันระหว่างกองทัพแคนาดาและอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ( ค.ศ.1914-1918) หมีน้อยตัวนี้ได้ไปอยู่ที่สวนสัตว์กรุงลอนดอน ในปี 1919 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวลอนดอนมาก รวมถึงหนูน้อยคริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชายของนักเขียนชื่อเอ.เอ.ไมล์น 

หนูน้อยคริสโตเฟอร์นำชื่อวินนี่ เพ็ก ไปตั้งชื่อตุ๊กตาหมีตัวโปรดว่า วินนี่ เดอะ พูห์ โดยคำว่า “ พูห์” (Pooh) เป็นชื่อของหงส์ในกวีบทหนึ่ง ต่อมาเอ.เอ.ไมลน์ จึงเริ่มเขียนเรื่องราวของวินนี่ เดอะ พูห์ และเพื่อนพ้องของมัน โดยหนังสือวางจำหน่ายเมื่อปีค.ศ.1926 หรือ 74 ปีที่แล้ว กระทั่งปี 1996 ที่ผ่านมา ยอดขายหนังสือสูงถึง 20 ล้านเล่ม แปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 25 ภาษา ในขณะเดียวกันวอลต์ ดิสนีย์ ซื้อลิขสิทธิ์หมีพูห์และนำไปสร้างการ์ตูนบนแผ่นฟิล์มในปี 1996 พร้อมกับผลิตภัณฑ์มากมายก่ายกอง ทำให้หมีพูห์เป็นตัวการ์ตูนยอดนิยมอันดับ 2 ของเด็กอเมริกันรองจากมิกกี้ เม้าส์ หมีพูห์รู้ดีว่าเขาต้องการอะไรเมื่อ “ ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง” นั่นคือ น้ำผึ้งไง! อืม... แต่จะทำอย่างไรหากเขาพบเพียงโถเปล่าที่มีน้ำผึ้ง  เหนียวๆ

ต้นกำเนิดหมีพูห์ (Winnie-the-Pooh)



ประมาณเดือนสิงหาคม ในปี ค.ศ. 1914 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Harry Colebourn สัตวแพทย์ชาวคานาดา ทำงานประจำที่ Fort Garry Horse ใน Winnipeg ได้ถูกส่งตัวไปประจำการที่อังกฤษ ขณะเดินทางไปอังกฤษ ขบวนรถไฟที่เขานั่งไปต้องหยุดจอดที่ White River ใน Ontario เพื่อเปลี่ยนขบวนใหม่ ระหว่างนั้นเขาได้เห็นชายคนหนึ่งกับลูกหมีสีดำ ณ บริเวณชานชาลาของสถานีรถไฟ โดยที่ลูกหมีตัวนั้นถูกผูกกับที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่ชายคนนั้นนั่งอยู่ หลังจากที่ Harry Colebourn พูดคุยกับชายคนนั้นทำให้เขารู้ว่า ชายคนนั้นเป็นนักล่าสัตว์ เขาจึงขอซื้อลูกหมีตัวนั้นในราคา 20 เหรียญสหรัฐ และตั้งชื่อให้มันว่า Winnie เขาได้นำ Winnie ไปอยู่กับเขาที่กองทัพด้วย ซึ่งทุกคนในกองทัพก็ถือว่า Winnie เป็นสัตว์นำโชค 
ต่อมาเดือนธันวาคม ในปีเดียวกัน กองทัพที่ Harry Colebourn ประจำการอยู่ ต้องย้ายกำลังพลไปที่ประเทศฝรั่งเศส Harry Colebourn ได้ฝาก Winnie ไว้ที่สวนสัตว์ที่กรุงลอนดอน และเขาคาดการณ์ว่าประมาณ 2 สัปดาห์เขาคงจะเสร็จภารกิจ และกลับมารับ Winnie ได้ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นดังที่เขาคิดไว้ สงครามสงบประมาณปี ค.ศ. 1918 Harry Colebourn กลับมาที่สวนสัตว์อีกครั้งเพื่อมารับ Winnie แต่เขาพบว่า Winnie อยู่อย่างมีความสุข ณ สวนสัตว์แห่งนี้ ทั้งคนเลี้ยงและคนที่มาเที่ยวในสวนสัตว์ รักมันมาก เขาจึงตัดสินใจปล่อยให้ Winnie อยู่ที่สวนสัตว์ตามเดิม และมาเยี่ยม Winnie เสมอเมื่อมีโอกาส จนกระทั่ง Winnie เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1934 ส่วน Harry Colebourn ได้กลับมาประจำการอยู่ที่ทำงานเก่าของเขา Fort Garry Horse ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 โดยทำหน้าที่เป็นสัตวแพทย์ ประจำกองทัพ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1947

แหล่งอ้างอิง: https://taw53010910062.blogspot.com/2012/07/blog-post.html

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

19 บทเรียนชีวิต จาก “Winnie the Pooh"


1. Piglet: “How do you spell 'love'?" /Pooh: "You don't spell it...you feel it." 
พิกเล็ต : “นายสะกดคำว่า'รัก'ได้ไงเหรอ ?” /พูห์ : “อย่าไปสะกดมันเลย แค่รู้สึกก็พอแล้ว”



2. "You are braver than you believe. Stronger than you seem. And smarter than you think."
“นายกล้าหาญกว่าที่นายคิดเยอะนะ ลุกขึ้นมาแข็งแรงกว่าที่นายดูเป็นอยู่ และเก่งกล้ากว่าที่นายคิดสิ”





3. “The things that make me different are the things that make me.”
“สิ่งที่ทำให้ฉันแตกต่าง คือสิ่งที่เป็นฉันนั่นแหละ”

4. "If the person you are talking to does not appear to be listening,
be patient. It may simply be that he has a small piece of fluff in this ear."
“ถ้าเรากำลังพูดกับใครแล้วดูเหมือนเขาไม่ฟัง ก็เย็นไว้ก่อน เพราะมันอาจจะมีบางอย่างอุดหูเขาอยู่ก็ได้”

5. “If there ever comes a day when we can’t be together keep me in your heart. I’ll stay there forever.”  
“ถ้าวันที่เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้มาถึง เพียงแค่เก็บฉันไว้ในใจ แล้วฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป”

6. "As soon as I saw you, I knew an adventure was going to happen."
“ทันทีที่ฉันได้เจอกับเธอ ฉันก็รู้เลยว่าการผจญภัยกำลังจะเริ่มขึ้น”

7. “Sometimes the smallest things take the most room in your heart.”
“บางครั้งสิ่งที่ดูเล็กๆ อาจเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ภายในใจเราก็ได้นะ"

8. "Some people care too much. I think it's called love."
“การที่เราแคร์ใครมากๆ ฉันคิดว่านั่นคือความรักนะ”


9. “Rivers know this: there is no hurry. We shall get there some day.
” แม่น้ำรู้ว่า ‘ไม่ต้องรีบหรอก เดี๋ยวเราก็ไปถึงมันเข้าซักวัน’

10. “If you live to be a hundred, I want to live to be ...
a hundred minus one day so I never have to live without you.”
“ถ้าเกิดเธออยู่ได้ถึงร้อยปี ฉันก็ขออยู่ได้100ปี
ลบ 1 วัน ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่โดยที่ไม่มีเธอ”

11. Weeds are flowers, too, once you get to know them."
“พอเธอได้ทำความรู้จัก วัชพืชก็เป็นดอกไม้เหมือนกัน ”


12. “I think we dream so we don’t have to be apart for so long.
If we’re in each other’s dreams, we can be together all the time.”
“ฉันคิดว่าที่เราฝัน ก็เพื่อที่จะไม่ต้องห่างกันนาน ๆ
เพราะถ้าเราต่างก็ฝันถึงกัน เราก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลา”

13. “You can't stay in your corner of the Forest waiting for
others to come to you. You have to go to them sometimes.”
“นายจะนั่งรออยู่ในมุมนี้ของป่า เพื่อรอให้ใครเข้ามา
หาอย่างเดียวไม่ได้นะ นายต้องออกไปหาพวกเค้าด้วย”

14. “Promise me you'll never forget me
because if I thought you would, I'd never leave.”
“สัญญาว่าจะไม่ลืมฉัน เพราะถ้าฉันคิดว่าเธอลืม ฉันคงจากไปไม่ได้”


15. “A little consideration, a little thought for others, makes all the difference.”
“ความเห็นใจ และการคิดถึงใจผู้อื่นมากขึ้นอีกนิด จะทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนแปลงไปได้อีกเยอะ”

16. “A day without a friend is like a pot without a single drop of honey left inside.”
“วันไหนที่ไม่มีเพื่อน ก็เหมือนโถที่ไม่มีน้ำผึ้งเหลืออยู่แม้ซักหยดเดียว”

17. “Love is taking a few steps backward, ...
maybe even more… to give way to the happiness of the person you love.”
“ความรักคือการก้าวถอยหลังเล็กน้อย… และอาจมากกว่านั้น… เพื่อทำให้คนที่เรารักมีความสุข”


18. “A day spent with you is my favourite day. So today is my new favourite day.”
“วันวานที่ฉันอยู่กับเธอ คือวันที่ฉันชอบที่สุด และวันนี้ ก็เป็นวันที่ฉันชอบที่สุดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง”

19. “How lucky am I to have something that makes saying goodbye so hard.”
“ฉันโชคดีแค่ไหน ที่มีอะไรก็ไม่รู้ มาทำให้ฉันบอกลาเธอยากจัง”



แหล่งที่มา: https://pantip.com/topic/32654326

หมีพูห์ เวอร์ชั่นคนแสดง ได้ผู้กำกับWorld War Z นั่งแท่น

หมีพูห์ เวอร์ชั่นคนแสดง ได้ผู้กำกับ World War Z นั่งแท่น Winnie the Pooh ฉบับคนแสดง ได้ มาร์ค ฟอร์สเตอร์ นั่งแท่นกำกับ อาจใช้ชื่...